เปิดสถิติดอกเบี้ยแบงก์ชาติ ปรับขึ้นมาแล้วกี่ครั้ง จนสูงสุดเป็นประวัติการณ์

จากกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้โพสต์เฟซบุ๊กผ่านเพจส่วนตัว “เศรษฐา ทวีสิน – Srettha Thavisin” ระบุว่า จากการที่แบงก์ชาติขึ้นดอกเบี้ย ทั้ง ๆ ที่เงินเฟ้อติดลบติดต่อกันหลาย ๆ เดือนนั้น ไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจเลย และยังมีผลกระทบต่อ ประชาชนที่มีรายได้น้อย และ SME อีกด้วย

“ผมจึงอยากให้กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูราคาสินค้าเกษตรบางชนิดให้เหมาะสม เพราะอาจจะต่ำไปก็ได้ และหวังว่าแบงก์ชาติจะช่วยดูแลประชาชนไม่ขึ้นดอกเบี้ยสวนทางกับ เงินเฟ้อนะครับ”

ทั้งนี้ หากดูสถิติในการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ จะพบว่ามีการปรับขึ้นครั้งแรกหลังจากผ่านช่วงวิกฤติโควิดที่ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ระดับต่ำ 0.50% โดยปรับขึ้นมาอยู่ที่ 0.75% หรือขึ้น 0.25% ในครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2565

หลังจากนั้นแบงก์ชาติ โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ทยอยปรับขึ้นมาเรื่อย ๆ ครั้งละ 0.25% จนแตะระดับ 2.50% เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2566 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือปรับขึ้นมาแล้ว 2.00% หากนับจากระดับต่ำช่วงโควิดที่ 0.50% จนล่าสุดการประชุมครั้งสุดท้ายของปี 2566 เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2566 กนง. ได้คงดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรก

สถิติดอกเบี้ยนโยบาย กนงคำพูดจาก ทดลองเล่นสล็อตทุกค่ายไม่ต้องสมัคร. ดังนี้

การคงดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. ในรอบล่าสุด สะท้อนว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยที่ประชุม กนง. ให้เหตุผลการคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2.50% ไว้ว่า “เศรษฐกิจไทยทยอยฟื้นตัวกลับเข้าสู่ระดับศักยภาพ และอัตราเงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมาย โดยอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพในระยะยาว ทั้งนี้ การดำเนินนโยบายการเงินในระยะข้างหน้าจะพิจารณาให้เหมาะสมกับแนวโน้มและความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ”คำพูดจาก เว็บสล็อตทดลองเล่น

จากคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ยังประเมินว่า ในปี 2567 เศรษฐกิจไทยทยอยฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ทำให้แบงก์ชาติจะคงดอกเบี้ยนโยบาย 2.50% ไว้ตลอดทั้งปี 2567 นี้ หรือมีโอกาสลดดอกเบี้ยนโยบายลงได้ในช่วงครึ่งปีหลังปี 2567 ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจ โดยการประชุม กนง. รอบถัดไป จะเกิดขึ้นในวันที่ 7 ก.พ. 2567

(ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 8 ม.ค. 67)