นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงกรณีการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) งวด 1/67 (ม.ค.-เม.ย. 67) ว่า ต้องการให้ภาครัฐได้พิจารณาคงอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยที่เรียกเก็บกับประชาชนทุกประเภทในระดับ 3.99 บาท/หน่วย ไปก่อน โดยระหว่างนี้ให้เร่งจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ด้านพลังงาน เพื่อพิจารณาแนวทางการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าทั้งระบบ โดยเชื่อว่าหากเร่งจัดตั้งจะมีข้อสรุปถึงโครงสร้างราคาค่าไฟทั้งระยะสั้น กลาง ยาว ออกมาในไม่ช้า ซึ่งจะเกิดความชัดเจนและสร้างความเชื่อมั่นต่อทุกภาคส่วน
“ทุกๆ 4 เดือน ผู้ประกอบการต้องมานั่งลุ้นว่าค่าไฟจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศขึ้นไม่ทันไร รัฐเข้ามาบอกว่าจะดูแลให้ลดลง แม้ว่าจะดูแล ก็เข้าใจ แต่อยากให้เห็นถึงทิศทางที่ชัดเจน เพราะถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่น โดยเฉพาะนักลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (เอฟดีไอ) รวมถึงผู้ประกอบการในไทยด้วย” นายเกรียงไกร กล่าว
อัตราค่าไฟเฉลี่ยที่ 3.99 บาท/หน่วยนั้น หากเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นคู่แข่งทางการค้า เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย มีอัตราที่ต่ำกว่า และหากในงวดใหม่ (ม.ค.-เม.ยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 67) ที่ กกพ. ระบุ จะต้องปรับขึ้นไปเฉลี่ยอยู่ที่ 4.68 บาทต่อหน่วยนั้น ถือว่าเป็นอัตราที่ค่อนข้างสูง จะส่งผลต่อการตัดสินใจการลงทุนจากต่างชาติได้ ขณะที่รัฐบาลเองกำลังมุ่งเน้นการดึงการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามา เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ขณะเดียวกันเมื่อมองเศรษฐกิจในประเทศ ประชาชนเองประสบกับภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูง และค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นการปรับขึ้นค่าไฟ จะยิ่งซ้ำเติมค่าครองชีพประชาชน จึงไม่เป็นผลดีต่อกำลังซื้อที่ขณะนี้ก็อ่อนแออยู่แล้ว ขณะที่ผู้ประกอบการเอง ก็ต้องเผชิญกับภาวะต้นทุนการผลิตที่สูง ย่อมผลักดันให้ราคาสินค้าปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งก็จะย้อนไปกระทบกับประชาชนผู้บริโภคและเศรษฐกิจโดยรวม
“ผมไม่ได้หมายถึงว่า ค่าไฟจะขึ้นไม่ได้เลย แต่ที่ผ่านมามองว่า ค่าไฟฟ้าของไทยนั้น มีการปรับขึ้นที่ไม่เหมาะสม จากหลายตัวแปรที่เป็นต้นทุนบางอย่าง ไม่ควรโยนภาระให้ประชาชนแบกรับ เราจึงต้องมี กรอ.พลังงานมาดูโครงสร้างราคาทั้งระบบ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และไม่ทำให้ราคาสวิงตัวจนเกินไปเช่นปัจจุบัน” นายเกรียงไกร กล่าว